วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ผลไม้ลดอ้วน

หากจะพูดถึงการลดน้ำหนักแล้ว นอกจากการออกกำลังการเรายังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการกินเป็นหลักด้วยนะคะ ส่วนใหญ่เราจะทราบดีว่าอาหารประเภทไหนที่เราใช้ในการควบคุมน้ำหนักกัน วันนี้เลยมาแนะนำของทานเลยระหว่างวันหรือเป็นอาหารในมื้อเย็นได้เลยค่ะ


1. แอปเปิล
          
          แอปเปิลเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และเกลือแร่ที่ดีต่อร่างกาย ด้วยเหตุผลนี้แอปเปิลจึงเป็นผลไม้ตัวแม่สุดจี๊ดที่ช่วยลดน้ำหนัก เพราะไฟเบอร์จะช่วยให้คุณอิ่ม ไม่กินจุบจิบ ระบบการขับถ่ายก็จะดีเลิศ แถมยังมีวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยเปล่งปลั่งได้อีกต่างหาก




2. ลูกแพร์

            

          ถ้าพูดถึงผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงปรี๊ด ลูกแพร์ก็คงติดอันดับผลไม้ที่ว่านั้นด้วย และอาจจะมีภาษีดีกว่านิดนึงตรงที่มีโพแทสเซียมช่วยบำรุงหัวใจ และสุขภาพร่างกายโดยรวมของเราได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า กินลูกแพร์ลูกเดียวได้ทั้งความอิ่มท้อง รวมทั้งช่วยบำรุงหัวใจไปด้วยในตัวเลยล่ะ
ลูกแพร์



3. กล้วยน้ำว้า

          กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีทั้งไฟเบอร์ โพแทสเซียม และวิตามินบี 6 ที่สูงมาก เฉลี่ยแล้วกล้วยน้ำว้า 1 ลูก จะให้วิตามินบีกับร่างกายได้ถึง 30% เทียบเท่าปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว แล้ววิตามินบี 6 ดียังไงล่ะ ? จุดนี้บอกได้เลยว่า วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และช่วยให้ร่างกายรู้สึกอิ่มนาน ดังนั้นใครที่กำลังไดเอตอยู่ กล้วยน้ำว้าช่วยคุณได้เยอะเลยล่ะ




4. บลูเบอร์รี
          ผลไม้ตระกูลเบอร์รีอย่างบลูเบอร์รีลูกเล็ก ๆ ก็มีอานุภาพในการบำรุงดูแลร่างกายเราได้มากมาย เริ่มตั้งแต่ช่วยรักษาระดับอินซูลิน ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงโรคอ้วน รวมถึงลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย นอกจากนี้ผลวิจัยล่าสุดยังพิสูจน์มาแล้วด้วยว่า บลูเบอร์รีสามารถกำจัดเซลล์ไขมันในร่างกายได้ผลชะงัด รู้ประโยชน์ของบลูเบอร์รีกันไปแล้ว ก็อย่าลืมกินบลูกเบอร์รีกันเยอะ ๆ นะจ๊ะ
บลูเบอร์รี

5. สตรอว์เบอร์รี

          นอกจากบลูเบอร์รีแล้ว ผลไม้ตระกูลเบอร์รียังส่งสตรอว์เบอร์รีลูกแดง ๆ มาช่วยคนอยากหุ่นสวยกระชับอีกหนึ่งชนิด และด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนอะดิโปเนกติน (Adiponectin) และฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ จัดการไขมันสะสมในร่างกายได้อยู่หมัด จึงทำให้สตรอว์เบอร์รีเป็นผลไม้ตัวแม่เรื่องการลดน้ำหนักที่ไม่ควรพลาดด้วยเช่นกัน 

          นอกจากนี้ สตรอว์เบอร์รียังมีสารต่อต้านอาการอักเสบ สามารถช่วยซ่อมแซมรักษาเนื้อเยื่อที่สึกหรอ และอักเสบในร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ป้องกันโรคหวัดได้อีกด้วยค่ะ


6.  ส้ม

          ด้วยปริมาณวิตามินซีที่สูงลิ่ว ไธอามีน และโฟเลทในผลไม้ลูกเล็ก ๆ อย่างส้ม ทำให้ส้มเป็นผลไม้ที่ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญได้ดีอีกชนิดหนึ่ง อีกทั้งเนื้อส้มยังให้ไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่ายได้ถึง 5 กรัม ต่อส้มสดปริมาณ 1 ถ้วยตวง ในขณะที่ให้พลังงานกับร่างกายเพียงแค่ 85 กิโลแคลอรี่เท่านั้น 

          แต่ทั้งนี้ อย่าสับสนไปกินน้ำส้มคั้นนะคะ เพราะน้ำส้มคั้นจะให้สารอาหารที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเป็นสารอาหารที่ค่อนข้างน้อยซะด้วยสิ อีกทั้งน้ำส้มยังทำให้คุณพลาดโอกาสได้รับไฟเบอร์จากเนื้อส้มอีกด้วย
ผลไม้ลดน้ําหนัก

7. มะละกอ
            
          เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามะละกอเป็นผลไม้ตัวแม่ที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย แต่จริง ๆ แล้วมะละกอมีดีกว่านั้นเยอะนะจ๊ะ เพราะนอกจากปริมาณไฟเบอร์มหาศาล มะละกอยังมีเอนไซม์ช่วยย่อย ทำให้อาหารที่เรากินเข้าไปถูกย่อย และดูดซึมได้โดยง่าย อีกทั้งมะละกอยังมีฟลาโวนอยด์ แคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระเป็นอาวุธชั้นดี เพื่อต่อสู้กับไขมัน และส่วนเกินของเราอีกด้วย


8. ฝรั่ง 

ฝรั่ง เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน ลดน้ำหนัก หรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากฝรั่งอุดมไปด้วยกากใยอาหาร เมื่อรับประทานแล้วจะทำให้อิ่มนาน ช่วยกำจัดท้องร้องอาการหิวที่คอยมากวนใจ เพราะกากใยจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยปรับระดับการใช้อินซูลินของร่างกายให้เหมาะสม และกากใยยังช่วยล้างพิษโดยรวบได้อีกด้วย จึงส่งผลทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส



ที่มา 1 : แอปเปิ้ล...ราชาแห่งผลไม้ลดน้ำหนัก
ที่มา 2 : สตรอเบอร์รี่ ครบสูตรคุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ
ที่มา  3 : frynn.com
ที่มา 4 : สรรพคุณและประโยชน์ของฝรั่ง

แก้วมังกรกระถาง

สำหรับคนที่อยากปลูกพืชที่สามารถปลูกได้ในพื้นที่น้อย แนะนำการปลูกพืชในกระถางเลยค่ะ ประหยัดพื้นที่ ดูแลง่าย แะตอนเก็บเกี่ยวผลผลิตยิ่งง่าย จึงยกตัวอย่างพืชมาเป็นแก้วมังกรนะคะ ที่ปลูกง่าย โตเร็วไม่ต้องการการดูแลเป็นอย่างมาก




วัสดุ – อุปกรณ์ ที่ต้องเตรียม มีดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ท่อน้ำทิ้งข้างในกลวง หน้ากว้าง 4 นิ้ว ยาว 1.3เมตร หรือ
เสาไม้ก็ได้
2. กระถางหน้ากว้าง 50 เซนติเมตร
3. ค้างต้านบนอาจทำจากไม้หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจตุรัส
กว้าง x ยาว 30 เซนติเมตร
4.ขุยมะพร้าว
5. ดิน
6. เชือกฟาง





วิธีปลูก
1. ใส่ขุยมะพร้าวรองก้นกระถาง เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ดีในอัตราส่วน 1 ใน 3 ของปริมาณกระถางจากน้ันนำดินสำเร็จรูป ผสมกับขุยมะพร้าวหรือแกลบดำ ใส่ลงไปในกระถางจนถึงขอบกระถาง
2. นำแก้วมังกรมาปลูกให้ชิดกับเสา แล้วนำเชือกฟางมามัดต้นแก้วมังกรให้ติดกับเสา ไม่ต้องมัดให้แน่นมาก ควรผูกเชือกไว้จนกว่าต้นแก้วมังกรจะเจริญเติบโต จนพ้นหัวเสา
3.จากน้ันนำดินมากลบด้านบนของกระถาง เป็นอันเสร็จ ต้นมังกรเป็นสามเหลี่ยม แต่จะมีด้านหนึ่งเป็นด้านแบน ดังน้ันเวลาปลูกต้นแก้วมังกร ให้จับด้านบนของต้นเข้ากับหลัก เพราะว่าด้านแบบจะเป็นด้านที่ออกราก
การดูแลแก้วมังกรในกระถาง
1. การรดน้ำให้รดเพียง 1 คร้ังภายใน 2 – 3 วัน และไม่ควรรดมากจนเกินไปเพราะอาจเกิดโรคเน่าได้
2. การให้ปุ๋ย ควรใส่ทุก 15 วัน ใส่ครั้งละ 2 – 4 ช้อนโต๊ะ สูตรที่ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน วันละ 1 ครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้ ถ้ามีปุ๋ยคอก มูลไก่ หรือ มูลวัวก็ใช้ได้เช่นกัน ให้ใส่เดือนละ 1 คร้ัง เมื่อปลูกได้เป็นเวลา 6 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย 8 – 24-24 ผสมกับ 15-15-15 ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง
ผลผลิต: เมื่อแก้วมังกร 8 เดือน – 1 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิต 30 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 3 100 – 200 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 4 – 15 300 ผลต่อหนึ่งค้างขึ้นไป ขนาดของผล ประมาณ 3 – 4 ผลต่อหนึ่งกิโลกรัม
ท่านใดที่อยู่ใกล้ปทุมธานี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณสิทธิศักดิ์ บุณยาคุมานนท์ ที่อยู่ 14/1 หมู่ที่ 3 ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ถ้าอยู่ใกล้เชียงใหม่ เยอะแยะเลยครับ แถวอำเภอแม่ริม ถนนแม่ริม – สเมิง เปิดให้ชมด้วย ทั้งที่ปลูกเป็นสวนและในกระถาง







ประโยชน์จากแก้วมังกร

แก้วมังกรลดความอ้วนได้จริงหรือ? ได้แน่นอนเพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว และแก้วมังกรมีแคลอรี่ต่ำเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดีและเป็นผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ ทานแล้วอิ่มท้องนาน เรียกได้ว่าสามารถรับประทานแทนอาหารหนึ่งมื้อได้เลย แม้จะทานเยอะแค่ไหนก็ไม่ทำให้อ้วน แถมช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใสดูมีน้ำมีนวลอีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรรับประทานอย่างพอประมาณหรือวันละไม่เกิน 1 ลูก ถ้าจะให้ดีในทุก ๆวันไม่ควรรับประทานผลไม้เดิม ๆซ้ำ ๆติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างหลากหลาย เพื่อที่จะได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่ โดยการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสตามหลักโภชนาการนั้นควรรับประทานผลไม้ให้ได้วันละ 3-5 ส่วนนั่นเอง

ประโยชน์ของแก้วมังกร

  1. แก้วมังกรช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น
  2. เป็นผลไม้ที่ช่วยดับร้อน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี
  3. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง
  4. แก้วมังกรลดน้ำหนักและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นผลไม้ตัวช่วยในเรื่องการลดความอ้วนเนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ
  5. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา และริ้วรอยต่าง ๆ
  6. มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
  7. ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ
  8. มีส่วนในการช่วยรักษาโรคเบาหวาน
  9. ช่วยบรรเทาอาการโรคความดันโลหิตได้
  10. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคโลหิตจาง
  11. มีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง
  12. ช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรี
  13. ช่วยดูดซับสารพิษต่าง ๆออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างอย่างตะกั่ว ที่มาจากควันท่อไอเสีย หรือสารตกค้างที่มาจากยาฆ่าแมลง
  14. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของคุณให้แข็งแรง
  15. มีกากใยสูงช่วยในการขับถ่ายให้สะดวก แก้อาการท้องผูก
  16. ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แก้ปัญหาการขับถ่ายต่าง ๆให้ดีขึ้น
  17. มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
  18. ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
  19. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  20. นิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้สด
  21. ใช้เป็นส่วนผสมในฟรุตสลัดและน้ำปั่นผลไม้

ที่มา 1: www.ipclub.ws/994
ที่มา 2 : kaijeaw.com
ที่มา 3 :อาชีพเสริมนอกเวลางาน
ที่มา 4  : frynn.com

แบบฝึกหัดบทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล นางสาวเกศรา นามประมา   รหัส 55010212027
คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้
1) “นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ ผิด เพราะเป็นการนำผลงานของคนอื่นมาใช้งานโดยที่ไม่มีการขออนุญาติก่อน มีความผิดในการเจาะเข้าทำลายระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

2) “นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย

ตอบ ไม่ผิด เพราะการที่เราจะสร้างเพจขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ของเราเอง อาจมีเรื่องจริงหรือไม่จริงบ้าง แต่ผู้ที่เสพสารสนเทศ หรือหาข้อมูลไปทำงานต่างๆต้องดูว่าข้อมูลนั้นเชื่อถือได้หรือไม่แหล่งข้อมูลนั้นอ้างมาจากที่ใด

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แบบฝึกหัดบทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

 กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล นางสาวเกศรา นามประมา รหัส 55010212027
คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall)
คือ ตรวจสอบการเชื่อมต่อต่างๆให้เป็นไปตามกฏ ซึ่ง
 Firewall จะเป็นตัวกรองข้อมูลว่า ข้อมูลชนิดนี้คือ ใคร (Source) ตัวข้อมูลต้องการจะไปที่ไหน
 (Destination) และข้อมูลชิ้นนี้จะบริการอะไรหรือทำอะไร (Service/Port) ถ้ารู้สึกว่าข้อมูลไม่ปลอดภัย
หรือมีความเสี่ยงที่จะมาทำความเสียหาย Firewall ก็จะทำหน้าที่กันไม่ให้ข้อมูลเข้าไปได้

2. จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer, 
spy ware, adware 
1 worm คือ Worm (หนอนอินเตอร์เน็ต) เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับโปรแกรมไวรัส 
แต่แพร่กระจายผ่านเครือข่ายไปยังคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ที่ต่ออยู่บนเครือข่ายด้วยกัน
 ลักษณะการแพร่กระจายคล้ายตัวหนอนที่เจาะไชไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ แพร่พันธุ์ด้วยการคัดลอก
ตัวเองออกเป็นหลาย ๆ โปรแกรม และส่งต่อผ่านเครือข่ายออกไป และสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้

2. virus computer คือ โปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบ
คอมพิวเตอร์ได้และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการ
นำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้อีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อ
มูลไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน
3. spy ware คือ โปรแกรมเล็ก ๆ ที่ถูกเขียนขึ้นมาสอดส่อง (สปาย) การใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
 อาจจะเพื่อโฆษณาสินค้าต่าง ๆ สปายแวร์บางตัวก็สร้างความรำคาญเพราะจะเปิดหน้าต่างโฆษณาบ่อยๆ
 แต่บางตัวร้ายกว่านั้น คือ ทำให้คุณใช้อินเตอร์เน็ทไม่ได้เลย ไม่ว่าจะไปเวบไหน ก็จะโชว์หน้าต่างโฆษณา
 หรืออาจจะเป็นเวบประเภทลามกอนาจาร พร้อมกับป๊อปอัพหน้าต่างเป็นสิบ ๆ หน้าต่าง

4. adware คือ แพกเกจซอฟต์แวร์ใดๆ ที่สามารถทำงาน แสดง หรือดาวน์โหลดสื่อโฆษณาโดยอัตโนมัติ
 ไปยังคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการติดตั้งซอฟต์แวร์ชนิดนี้ไว้ หรือขณะที่โปรแกรมประยุกต์กำลังเรียกใช้ 
ซอฟต์แวร์โฆษณาบางประเภทเป็นซอฟต์แวร์สอดแนม(spyware) และถูกจัดว่าเป็นซอฟต์แวร์รุกราน
ภาวะส่วนตัว (privacy-invasive software)

3. ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
ตอบ 1. ไวรัสตามวิธีการติดต่อ
2. ไวรัสตามลักษณะการทำงาน
3. ไวรัสตามลักษณะแฟ้มที่ติดไวรัส

4. ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ
1) ไม่เชื่อมต่อ Free wifi ในสถานที่อื่นง่ายๆ เสี่ยงต่อไวรัสได้
2) ไม่เปิดการเชื่อมต่อบรูทูธไว้ตลอดเวลา
3) ไม่เสียบชาร์ทแบตอุปกรณ์สื่อสารของเราในที่สาธารณะ
4) ไม่นำUSB ที่เสียบจากเครื่องคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย มาเสียบโนตบุคเรา
5) ไม่แชร์อินเทอร์เน็ตแบบฮอตสปอท

5. มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบัน 
ได้แก่
 1. ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)
 2. ความถูกต้อง (Information Accuracy)
 3 ความเป็นเจ้าของ (Information Property) 
  4. การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility) ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy) 

แบบฝึกหัดบทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

 กลุ่มที่เรียน 1

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล นางสาวเกศรา นามประมา รหัส 55010212027

คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1. การประยุกต์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นความหมายของข้อใด?
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
2. เทศโนโลยี
3. สารสนเทศ
4. พัฒนาการ
ตอบ 2. เทศโนโลยี

2. เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการเสริมสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
4. การพยากรณ์อากาศ
ตอบ 2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล

3. การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม (ATM) เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
1. ระบบอัตโนมัติ
2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตอบ 1. ระบบอัตโนมัติ

4. ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. ระบบการโอนถ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
3. การติดต่อข้อมูลทางเครือข่าย
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4. ถูกทุกข้อ

5. เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
2. ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
3. การนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มให้กับสารสนเทศ
4. การนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
ตอบ 1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์

6. เครื่องมือที่สำคัญในการในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
2. สารสนเทศ
3. คอมพิวเตอร์
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4. ถูกทุกข้อ

7. ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่อมผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ้มประสิทธิภาพในการทำงาน
2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปลี่ยนสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน หรือสอบถามผลสอบได้
3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้บุคคลทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
ตอบ 4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ

8. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
1. เครื่องถ่ายเอกสาร
2. เครื่องโทรสาร
3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
4. โทรทัศน์ วิทยุ
ตอบ 1. เครื่องถ่ายเอกสาร

9. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกียวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานธุรกิจ
2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ตอบ 3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ 

10. ข้อใดคือประโยชน์ที่ได้จากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน?
1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
3. ติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
4. ถูกทุกข้อ
ตอบ 4. ถูกทุกข้อ

แบบฝึกหัดบทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ

 กลุ่มที่เรียน 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ -สกุล นางสาวเกศรา นามประมา รหัส 55010212027

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1. จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ

 ตอบ คือ การวางแผน จัดหา รวบรวม จัดเก็บ รักษา และส่งต่อแพร่กระจายสารสนเทศไปยังผู้ใช้ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงพัฒนาสมรรถนะการบริหารงานและการดำเนินงานขององค์กร สร้างนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้

2. การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร

ตอบ มีความสำคัญต่อบุคคลในการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพ ต่างๆ ความสำคัญในด้านการทำงาน บุคคลจำเป็นต้องใช้สารสนเทศทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์การ ภาระหน้าที่ ประกอบการทำงานทั้งระดับบริหารและระดับปฏิบัติการการจัดเก็บสารสนเทศที่ เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบตามภารกิจส่วนตัว ช่วยสนับสนุนให้สามารถทำงานให้ประสบความสำเร็จได้ทันการณ์ ทันเวลา

3. พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง

ตอบ  แบ่งออกเป็น 2 ยุค คือ 1.การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ 2. การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์

4. จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
ตอบ 1. โทรศัพท์มือถือ เพื่อการติดต่อสื่อสาร
           2. บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาทการ์ด
           3. บัตร ATM

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2559

มาเด้อ เที่ยวสกลนคร อำเภอวาริชภูมิ ละเบ๋อออจร้า



ประวัติโดยย่อของจังหวัดสกลนคร
สกลนคร เป็นเมืองพุทธศาสน์ พระธาตุห้าแห่ง แหล่งอารยธรรมสามพันปี ตามตำนานเล่าว่า เมืองหนองหานหลวงในอดีต หรือสกลนครในปัจจุบันนั้น สร้างขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่ 16 ในยุคที่ขอมมีอำนาจในดินแดนนี้ ต่อมาเมื่ออิทธิพลขอมเสื่อมลง เมืองหนองหานหลวงตกไปอยู่ในความปกครองของอาณาจักรล้านช้าง เรียกชื่อเมืองว่า “เมืองเชียงใหม่หนองหาน” และเมื่อมาอยู่ในความปกครองของไทย ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เมืองสกลทวาปี” ต่อมา ในปี พ.ศ. 2373 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เปลี่ยนชื่อจากเมืองสกลทวาปี เป็น “เมืองสกลนคร” ในปัจจุบัน จังหวัดสกลนครยังได้รับการขนานนามว่าเป็น"แอ่งธรรมะแห่งอีสาน" ดังเห็นหลักฐานได้จากวัดวาอารามเก่าแก่ที่มีอยู่มากมาย แสดงถึงความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นถิ่นกำเนิดและพำนักของอริยสงฆ์ที่สำคัญเป็นที่เคารพบูชาของชาวไทยหลาย ท่าน อาทิ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์วัน อุตตโม หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี เป็นต้นจังหวัดสกลนคร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 647 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 9,605 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 18 อำเภอ คือ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอกุสุมาลย์ อำเภอกุดบาก อำเภอ พรรณานิคม อำเภอวาริชภูมิ อำเภอส่องดาว อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอวานรนิวาส อำเภออากาศอำนวย อำเภอบ้านม่วง อำเภอพังโคน อำเภอคำตากล้า อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอเต่างอย อำเภอโคกศรีสุพรรณ อำเภอเจริญศิลป์ อำเภอโพนนาแก้ว และอำเภอภูพาน


คำขวัญ ประจำจังหวัด
พระธาตุเชิงชุมคู่บ้าน พระตำหนักภูพานคู่เมือง งามลือเลื่องหนองหาร
แลตระการปราสาทผึ้ง สวยสุดซึ้งสาวกูไท ถิ่นมั่นในพุทธธรรม


ในส่วนของเนื้อหาจะขอกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวแค่ในอำเภอว่าริชภูมิเท่านั้นนะค่ะ
สถานที่ที่ 1 ศาลเจ้าปู่มเหศักดิ์

สถานที่ตั้ง อ. วาริชภูมิ จ. สกลนคร
เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ กราบไว้บูชาของชาววาริชภูมฺิ เป็นศาลบ้านศาลเมืองก็ว่าได้ค่ะ

สถานที่ที่ 2 ภูอ่างศอ


Phu Ang Sok 
  • สถานที่ตั้ง  : อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร
  • ห่างจากศูนย์ราชการอำเภอวาริชภูมิไปประมาณ 18 กม.ต้องเดินขึ้นไปภูไปอีก 5 กม.เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ชอบตั้งแคมป์เป็นหมู่คณะ บรรยากาศข้างบนในฤดูหนาวมีความงดงามไม่แพ้ภูกระดึง เป็นภูเขาที่มีความสูงมาก บรรยากาศของหมู่บ้านด้านล่างจะปกติ แต่พอเราขึ้นไปถึงภู่อ่างศอแล้วจะเป็นเหมือนอีกบรรยากาศนึง คือจะหนาวเย็นไปเลย อากาศดีมากค่ะ
  • สถานที่ที่ 3 พระธาตุศรีมงคล
  • Phra That Si Mongkhon
    • สถานที่ตั้ง : อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร
    • ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุศรีมงคล ตำบลบ้านธาตุ ลักษณะเป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม ยอดแหลม ตกแต่งด้วยศิลปกรรมยุคใหม่ ก่ออิฐถือปูนประดับด้วยลายปั้นดินเผา บริเวณฐานเป็นพุทธประวัติของพระพุทธเจ้าสร้างด้วยดินเผาที่สร้างขึ้นครอบพระธาตุองค์เดิม ซึ่งเป็นศิลาแลงที่ชำรุด การคมนาคมสะดวกรถยนต์สามารถเข้าถึงบริเวณวัด นับเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวอำเภอวาริชภูมิ
    • สถานที่ที่ 4 ถ้ำพระพุทธไสยาสน์(ถ้ำพระทอง)
Tham Phra Phut Saiyat ( Tham Phrathong Rue Phupha Thong ) ( O Waritchaphum )
  • สถานที่ตั้ง : อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร
  • ตั้งอยู่ที่ตำบลค้อเขียว ห่างจากที่ว่าการอำเภอวาริชภูมิประมาณ 9 กิโลเมตร บริเวณถ้ำมีลักษณะนำเพิงหินมาดัดแปลงก่อสร้างเพิ่มเติมเป็นศาลาการเปรียญ บริเวณใกล้ถ้ำมีหินธรรมชาติรูปร่างแปลกๆ มากมาย บรรยากาศของวัดจากความสูงเมื่อมองลงมาจะเห็นวิวส์ของตำบลค้อเขียวทั้งหมด ซึ่งมีความสวยงามมาก
  • สถานที่ที่ 5 วัดคอนสวรรค์ 

  • สถานที่ตั้ง : ตั้งอยู่เลขที่ ๑๙๐ หมู่ที่ ๑ บ้านค้อเขียว ตำบลค้อเขียว อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร แต่เดิมเป็นวัดร้างสร้างมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ปรากฏ เพราะไม่เหลือสิ่งก่อสร้างใดๆให้เห็นยกเว้น สิม(พระอุโบสถ) เท่านั้น เมื่อปี ๒๔๗๑ หลวงพ่อนู ได้ชักชวนชาวบ้านมาช่วยกันปรับปรุง ในบริเวณพื้นที่ซึ่งมีสิม(พระอุโบสถ) อยู่หลังหนึ่งทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน และชาวบ้านในยุคต่อๆมาก้ได้ช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์จนก่อตั้งเป็นวัดอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาในปี ๒๕๓๕ พระมงคลวิสุทธิ์ (หลวงปู่สุภา กันตฺสีโล) ได้เข้ามาอุปถัมป์ด้วยการบูรณะและก่อสร้างเสนาสนะต่างๆเพิ่มเติม จนรุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน
  • สถานที่ที่ 6 น้ำตกแก่งกุลา









สถานที่ตั้ง : บ้านดอนส้มโฮง ตำบลค้อเขียว อำเภอวาริชภูมิ เป็นน้ำตกธรรมชาติที่ไหลมาจากยอดภูผาเหล็ก ที่สะสมจากคลองเล็กๆหลายคลองไหลมารวมกันเป็นน้ำตกแก่งกุลา และไหลลงสู่ห้วยน้ำยามของ บ้านดอนส้มโฮง เป็นลำห้วยที่หล่อเลี้ยงหมู่บ้านในยามทำนา

สถานที่ที่ 7 สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ จำกัด
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ



สถานที่ตั้ง 18 หมู่ 4 บ้านป่าโจด ต.ค้อเขียว อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร บริเวณตั้งชุมชนเหมาะแก่การเลี้ยงโคนม จึงมีการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และได้รับการส่งเสริมเกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์โค และการผลิตเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ แลได้ขยายผลให้มีการเลี้ยงโคนมมากขึ้นจนกระทั่งประสบผลสำเร็จ ในปัจจุบัน สหกรณ์โคนมวาริชภูมิ มีการผลิตนมสดถุง นมกล่อง พาสเจอไรซ์ ส่งเพียงพอในอำเภอ และอำเภอใกล้เคียงตามโรงเรียนต่างๆ
ถานที่ที่ 8 อนุสรสถานจิตภูมิศักดิ์ 


สถานที่ตั้ง “อนุสาวรีย์จิตร ภูมิศักดิ์” ตั้งอยู่ที่บ้านหนองกุง ตำบลคำบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวัน "จิตร ภูมิศักดิ์" ในวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี อนุสรณ์สถานจิตร ภูมิศักดิ์ ได้รับการก่อสร้างบริเวณพื้นที่ "ตอไม้แดง" ซึ่งมีพยานเล่ากันว่าร่างของ จิตร ภูมิศักดิ์ ถูกเผา ณ จุดดังกล่าว โดยในวันที่ 5 พฤษภาคม 2547 ปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร (ในขณะนั้น) ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร และเทศบาลตำบลคำบ่อคำบ่อ ร่วมมาดำเนินการปรับภูมิทัศน์บริเวณที่จิตร ถูกยิงเสียชีวิต พร้อมกับสร้างรูปปั้นจิตรแบบครึ่งตัวไว้ในพื้นที่ดังกล่าว

ที่มา 1 : http://www.tripsthailand.com/th/thailand_Major_Destinations_sakonnakhon.php
ที่มา 2 : http://www.edtguide.com/travel/312346/pu-mahesak-shrine
ที่มา 3 : http://www.edtguide.com/travel/328403/tham-phra-phut-saiyat-tham-phrathong-rue-phupha-thong-o-waritchaphum1
ที่มา 4 : Arunee Promkhamtut (ภาพสวยน้ำตกแก่งกุลา)
ที่มา 5 : https://th.wikipedia.org/wiki