วัสดุ – อุปกรณ์ ที่ต้องเตรียม มีดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ท่อน้ำทิ้งข้างในกลวง หน้ากว้าง 4 นิ้ว ยาว 1.3เมตร หรือ
เสาไม้ก็ได้
2. กระถางหน้ากว้าง 50 เซนติเมตร
3. ค้างต้านบนอาจทำจากไม้หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจตุรัส
กว้าง x ยาว 30 เซนติเมตร
4.ขุยมะพร้าว
5. ดิน
6. เชือกฟาง
เสาไม้ก็ได้
2. กระถางหน้ากว้าง 50 เซนติเมตร
3. ค้างต้านบนอาจทำจากไม้หรือปูนเป็นรูป 4 เหลี่ยมจตุรัส
กว้าง x ยาว 30 เซนติเมตร
4.ขุยมะพร้าว
5. ดิน
6. เชือกฟาง
วิธีปลูก
1. ใส่ขุยมะพร้าวรองก้นกระถาง เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ดีในอัตราส่วน 1 ใน 3 ของปริมาณกระถางจากน้ันนำดินสำเร็จรูป ผสมกับขุยมะพร้าวหรือแกลบดำ ใส่ลงไปในกระถางจนถึงขอบกระถาง
1. ใส่ขุยมะพร้าวรองก้นกระถาง เพื่อให้น้ำถ่ายเทได้ดีในอัตราส่วน 1 ใน 3 ของปริมาณกระถางจากน้ันนำดินสำเร็จรูป ผสมกับขุยมะพร้าวหรือแกลบดำ ใส่ลงไปในกระถางจนถึงขอบกระถาง
2. นำแก้วมังกรมาปลูกให้ชิดกับเสา แล้วนำเชือกฟางมามัดต้นแก้วมังกรให้ติดกับเสา ไม่ต้องมัดให้แน่นมาก ควรผูกเชือกไว้จนกว่าต้นแก้วมังกรจะเจริญเติบโต จนพ้นหัวเสา
3.จากน้ันนำดินมากลบด้านบนของกระถาง เป็นอันเสร็จ ต้นมังกรเป็นสามเหลี่ยม แต่จะมีด้านหนึ่งเป็นด้านแบน ดังน้ันเวลาปลูกต้นแก้วมังกร ให้จับด้านบนของต้นเข้ากับหลัก เพราะว่าด้านแบบจะเป็นด้านที่ออกราก
การดูแลแก้วมังกรในกระถาง
1. การรดน้ำให้รดเพียง 1 คร้ังภายใน 2 – 3 วัน และไม่ควรรดมากจนเกินไปเพราะอาจเกิดโรคเน่าได้
1. การรดน้ำให้รดเพียง 1 คร้ังภายใน 2 – 3 วัน และไม่ควรรดมากจนเกินไปเพราะอาจเกิดโรคเน่าได้
2. การให้ปุ๋ย ควรใส่ทุก 15 วัน ใส่ครั้งละ 2 – 4 ช้อนโต๊ะ สูตรที่ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องรดน้ำ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน วันละ 1 ครั้งเช้าหรือเย็นก็ได้ ถ้ามีปุ๋ยคอก มูลไก่ หรือ มูลวัวก็ใช้ได้เช่นกัน ให้ใส่เดือนละ 1 คร้ัง เมื่อปลูกได้เป็นเวลา 6 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย 8 – 24-24 ผสมกับ 15-15-15 ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่ง
ผลผลิต: เมื่อแก้วมังกร 8 เดือน – 1 ปี ก็เริ่มให้ผลผลิต 30 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 2 ประมาณ 50 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 3 100 – 200 ผลต่อหนึ่งค้าง ปีที่ 4 – 15 300 ผลต่อหนึ่งค้างขึ้นไป ขนาดของผล ประมาณ 3 – 4 ผลต่อหนึ่งกิโลกรัม
ท่านใดที่อยู่ใกล้ปทุมธานี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณสิทธิศักดิ์ บุณยาคุมานนท์ ที่อยู่ 14/1 หมู่ที่ 3 ตำบลบึงบา อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ถ้าอยู่ใกล้เชียงใหม่ เยอะแยะเลยครับ แถวอำเภอแม่ริม ถนนแม่ริม – สเมิง เปิดให้ชมด้วย ทั้งที่ปลูกเป็นสวนและในกระถาง
ประโยชน์จากแก้วมังกร
แก้วมังกรลดความอ้วนได้จริงหรือ? ได้แน่นอนเพราะเป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว และแก้วมังกรมีแคลอรี่ต่ำเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดีและเป็นผลไม้ที่มีเนื้อเยอะ ทานแล้วอิ่มท้องนาน เรียกได้ว่าสามารถรับประทานแทนอาหารหนึ่งมื้อได้เลย แม้จะทานเยอะแค่ไหนก็ไม่ทำให้อ้วน แถมช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใสดูมีน้ำมีนวลอีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรรับประทานอย่างพอประมาณหรือวันละไม่เกิน 1 ลูก ถ้าจะให้ดีในทุก ๆวันไม่ควรรับประทานผลไม้เดิม ๆซ้ำ ๆติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างหลากหลาย เพื่อที่จะได้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเต็มที่ โดยการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสตามหลักโภชนาการนั้นควรรับประทานผลไม้ให้ได้วันละ 3-5 ส่วนนั่นเอง
ประโยชน์ของแก้วมังกร
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น
- เป็นผลไม้ที่ช่วยดับร้อน ดับกระหายได้เป็นอย่างดี
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรง
- แก้วมังกรลดน้ำหนักและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นผลไม้ตัวช่วยในเรื่องการลดความอ้วนเนื่องจากมีแคลอรี่ต่ำ
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยความแก่ชรา และริ้วรอยต่าง ๆ
- มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดหัวใจ
- มีส่วนในการช่วยรักษาโรคเบาหวาน
- ช่วยบรรเทาอาการโรคความดันโลหิตได้
- มีส่วนช่วยบรรเทาอาการของโรคโลหิตจาง
- มีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยกระตุ้นการขับน้ำนมในสตรี
- ช่วยดูดซับสารพิษต่าง ๆออกจากร่างกาย เช่น สารตกค้างอย่างตะกั่ว ที่มาจากควันท่อไอเสีย หรือสารตกค้างที่มาจากยาฆ่าแมลง
- ช่วยบำรุงกระดูกและฟันของคุณให้แข็งแรง
- มีกากใยสูงช่วยในการขับถ่ายให้สะดวก แก้อาการท้องผูก
- ช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ แก้ปัญหาการขับถ่ายต่าง ๆให้ดีขึ้น
- มีส่วนช่วยป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบกำจัดของเสียในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- นิยมนำมารับประทานเป็นผลไม้สด
- ใช้เป็นส่วนผสมในฟรุตสลัดและน้ำปั่นผลไม้
ที่มา 1: www.ipclub.ws/994
ที่มา 2 : kaijeaw.com
ที่มา 3 :อาชีพเสริมนอกเวลางาน
ที่มา 4 : frynn.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น